นอกจากเรื่องของการวางแผนการเล่น วางแท็คติก รวมถึงการเลือกจัดตัวผู้เล่นก่อนเกมการแข่งขันแล้ว ที่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้จัดการทีมฟุตบอลทุกทีม ก็ยังมีเรื่องของการบันทึกข้อผิดพลาดของทีมระหว่างเกมการแข่งขันด้วยที่จำเป็นไม่แพ้ไปกว่ากัน เพราะการบันทึกข้อผิดพลาดนั่นจะทำให้ทีมฟุตบอลนั้นๆสามารถพัฒนาไปอย่างถูกที่ ถูกจุด หรือพัฒนาได้เร็วขึ้น คือหากว่าไม่มีการบันทึกหรือจดจำข้อผิดพลาดของทีมระหว่างเกมการแข่งขันต่างๆเลย ก็อาจจะไม่รู้ว่าทีมบกพร่องตรงไหน ควรที่จะปรับปรุงตรงไหน ทำให้แต่ละนัดที่ผ่านพ้นไปนั้นเป็นการย่ำอยู่กับที่ ไม่สามารถก้าวเดินไปข้างหน้าได้เลย
กุนซือเก่งๆหลายต่อหลายคนจึงเลือกวิธีสังเกตข้อผิดพลาดของทีมระหว่างเกมการแข่งขัน แล้วทำการเลเชอร์เอาไว้ ตัวอย่างเช่น เป๊ป กวาดิโอล่าห์ ของทีมบาเยิร์น มิวนิค แบรนแดน ร็อดเจอร์ส ของทีมลิเวอร์พูล หากใครเคยได้ดูการทั้งสองคนคุมทีมข้างสนามจะเห็นได้เลยว่าเมื่อมีข้อผิดพลาดในทีมใดๆเกิดขึ้นเขาจะเลคเชอร์เอาไว้ ไม่เสียเวลาไปกับการว่ากล่าวลูกทีม หรือโวยวายกรรมการลูกทีมอย่างเดียว โดยเฉพาะภายหลังจากที่เสียประตูนั้นจะเป็นสิ่งที่ควรจะต้องบันทึกข้อผิดพลาดเอาไว้อย่างยิ่ง ด้วย ณ เวลาขณะ กุนซือจะทราบดีว่าเป็นเพราะอะไรลูกทีมของตนถึงได้เสียประตู เมื่อบันทึกเอาไว้แล้วและนำไปปรับปรุงแก้ไข โอกาสที่จะเสียประตูจากความผิดพลาดเดิมๆอีกก็ลดน้อยลง
แต่ทั้งนั้นทั้งนี้ความประสบการณ์จากความผิดพลาดในเกมฟุตบอลนั้นก็ใช่ว่าจะนำไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้กับทุกๆเกมการแข่งขัน ด้วยในแต่ละเกมการแข่งขันนั้นทีมฟุตบอลทีมนึงไม่ได้เจอกับทีมเดิม ทีมเดียวอยู่อย่างนั้น และแต่ละทีมที่เจอก็มีสไตล์การเล่น มีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป ฉะนั้นที่สุดแล้วก็อยู่กึ๋นของตัวกุนซือแต่ละรายด้วยครับว่า ช่วงเวลาไหนจะนำความผิดพลาดแบบใดขึ้นมาเน้นลูกทีมของตัวเอง ซึ่งหากว่าเน้นได้เหมาะสมกับช่วงเวลาก็ย่อมเป็นประโยชน์ต่อผลการแข่งขันของทีมมากๆ